หากคุณกำลังมองหาแนวโน้มราคาบิทคอยน์หรือความเป็นไปได้ในอนาคตแล้วล่ะก็ คู่มือนี้อาจช่วยคุณได้
การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ในระยะสั้นและระยะยาวของเราจะเจาะลึกถึงยูทิลิตี้และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่างๆ และแสดงให้เห็นโอกาสสำหรับการลงทุนใน BTC ในปัจจุบัน
มาเจาะลึกกันเลย
แนวโน้มราคาบิทคอยน์ 2024
ในขณะที่เขียน บิทคอยน์ในปัจจุบันมีราคาราคาอยู่ที่มากกว่า $37,000 โดยโทเค็นดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2023 และที่สำคัญเหรียญมีการเติบโตอย่างมากตั้งแต่เดือนตุลาคมในปีเดียวกันนี้
เพื่อให้เห็นภาพรวมสำหรับแนวโน้มระยะยาวของ BTC มากขึ้น ด้านล่างนี้คือการคาดการณ์ราคาของเราในปีต่อๆ ไป:
- สิ้นปี 2024 – เนื่องจากเหรียญเริ่มมีโมเมนตัมและเครือข่าย lightning ยังคงขยายตัวต่อไป มันอาจจะเติบโตต่อไปในปี 2024 การยอมรับที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากสามารถช่วยให้เหรียญราชาถึงจุดสูงสุดที่ 60,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2024
- สิ้นปี 2025 – แม้ว่า Altcoin ที่ดีที่สุดบางสกุลอาจพัฒนาให้มียูทิลิตี้ที่ดีขึ้น แต่ Bitcoin ก็สามารถรักษาอันดับเอาไว้ได้ด้วยสถานะ ‘เหรียญสกุลแรกที่ขับเคลื่อนตลาด’ เราจึงคาดว่าบิทคอยน์จะมีมูลค่าถึง $100,000 ภายในสิ้นปี 2025
- สิ้นปี 2030 – เมื่ออัตราการใช้เหรียญคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีแนวโน้มว่า BTC จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากบรรดาผู้ทำธุรกิจในการชำระค่าสินค้าและบริการ และทำให้ราคาบิทคอยน์อาจสูงกว่า $100,000 และสูงถึง $150,000 ภายในปี 2030 นักวิเคราะห์ที่มองว่า Bitcoin จะเป็นขาขึ้นยังเชื่อว่าราคา BTC จะแตะที่ 1 ล้านดอลลาร์ได้ในอนาคตอีกด้วย
- สิ้นปี 2040 – ขึ้นอยู่กับการยอมรับของหลายประเทศและความสามารถของบิทคอยน์ในการปรับโฉมระบบการเงินแบบดั้งเดิม ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นจะหันมาให้ความสนใจในเหรียญนี้ เป็นผลให้อาจมีผลให้แนวโน้มบิทคอยน์มูลค่าสูงถึง 250,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2040
🔵 ชื่อเหรียญ | Bitcoin |
💲 ราคา | $61,223.93 |
🔆 สัญลักษณ์ | BTC |
⏳ ราคาเปลี่ยนแปลง 1 ชม | 1.1% |
🌕 ราคาเปลี่ยนแปลง 24 ชม | 2.72% |
💵 มูลค่าตามราคาตลาด | $1,207,296,159,590 |
🥇 อันดับ | 1 |
🌐 ปริมาณ 24 ชม | $21,354,923,928 |
🔄 อุปทานหมุนเวียน | 19,719,350 |
💰 อุปทานทั้งหมด | 19,719,350 |
ราคาบิทคอยน์ในอดีต
ในฐานะเหรียญคริปโตแรกที่ได้รับการยอมรับ บิทคอยน์ได้ทำลายกำแพงจำนวนมากและกรุยทางสำหรับโครงการคริปโตอื่นๆ แม้ว่าจะมีเหรียญคริปโตเพิ่มขึ้นมาและมีการใช้งานที่น่าสนใจ แต่นักลงทุนจำนวนมากยังคงเลือกซื้อบิทคอยน์ เนื่องจากมีมูลค่าในตัวเอง เป็นเหรียญคริปโตน่าขุด และความผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับเหรียญคริปโตอื่นๆ
บิทคอยน์เป็นคริปโตเคอร์เรนซี่แบบ peer-to-peer (P2P) ซึ่งตรวจสอบการทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีบล็อคเชน แต่ในปี 2009 ที่มีการเปิดตัว BTC การใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนยังถือเป็นแนวคิดที่แตกต่างไปจากอุตสาหกรรมส่วนใหญ่
ซาโตชิ นาคาโมโตะ ผู้สร้างบิทคอยน์ได้เผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ของบิทคอยน์ในปี 2008 ซึ่งเขาได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของบิทคอยน์ โดยบล็อกแรกของบิทคอยน์นั้นถูกขุดเมื่อต้นปี 2009 และเขาได้มอบการควบคุมโค้ดบิทคอยน์ให้กับนักพัฒนารายอื่นในปี 2010 และจากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินข่าวคราวของเขาอีกเลย
ราคาของ BTC ที่มีการบันทึกไว้ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2010 อยู่ที่ $0.0008 นักลงทุนที่ต้องการซื้อคริปโตเคอเรนซี่และเปิดรับเทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยผลักดันราคาบิทคอยน์ในปีต่อๆ มา โดยราคา BTC ได้พุ่งแตะ $250 ในปี 2013 แต่บิทคอยน์เริ่มได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจริงๆ ก็ในช่วงกลางปี 2017
ประวัติราคาบิทคอยน์ได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 2,300% ในตลอดครึ่งหลังของปี 2017 ซึ่งราคาทะลุไปถึง $19,000 แต่หลังจากนั้นก็เกิดภาวะตลาดซบเซาที่กินเวลานาน ซึ่งบิทคอยน์ได้สูญเสียมูลค่าไปประมาณ 85% โดยการเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์ที่แท้จริงนั้นเริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2020
ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 ถึงเมษายน 2021 ราคาบิทคอยน์เพิ่มขึ้นกว่า 540% โดยแตะระดับสูงสุดที่ $64,700 และไม่นานหลังจากที่ราคาตกลงมาสั้นๆ ราคาบิทคอยน์ก็พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $68,789 ตามรายงานของ CoinMarketCap แต่สุดท้ายราคาก็ลดลงกว่า 70%
ต่อไปนี้คือภาพรวมของประเด็นแนวโน้มบิทคอยน์ วันนี้ที่เราได้พูดถึงจนถึงตอนนี้:
- ซาโตชิ นาคาโมโตะเผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ในเดือนตุลาคม 2008
- รหัสแบบโอเพนซอร์ซของบิทคอยน์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2009
- ราคาบิทคอยน์ที่บันทึกครั้งแรกอยู่ที่ $0.0008 ในเดือนกรกฎาคม 2010
- ราคาบิทคอยน์แตะระดับสูงสุดที่ $19,000 ในปี 2017
- เกิดภาวะตลาดซบเซาหลังจากราคาสูงสุด และบิทคอยน์ได้สูญเสียมูลค่าไป 85%
- ราคาบิทคอยน์ฟื้นตัวและทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ $68,789 ในเดือนพฤศจิกายน 2021
แนวโน้มราคาบิทคอยน์ปี 2024
ในขณะที่เขียน หลายคนตั้งคำถามว่าบิทคอยน์ จะขึ้นอีกไหม กราฟราคาบิทคอยน์อาจดูไม่ค่อยดีนัก แต่เหรียญยังคงมีโอกาสทำกำไรในปีต่อๆ ไป โดยหนึ่งในตัวขับเคลื่อนมูลค่าหลักของบิทคอยน์ที่มุ่งหน้าสู่ปี 2024 คือการเติบโตของ Lightning Network โปรโตคอลการชำระเงินเลเยอร์ 2 ของบิทคอยน์
Coinbase อธิบายว่า Lightning Network จะให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับ BTC ได้อย่างรวดเร็วและราคาถูกโดยการย้ายธุรกรรมออกจาก Blockchain หลัก สิ่งนี้ช่วยให้ Blockchain หลักทำงานได้เร็วขึ้นและมีประโยชน์เพิ่มเติมในการทำให้การชำระเงินด้วยบิทคอยน์น่าสนใจยิ่งขึ้น
อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ Bitcoin Halving ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ สี่ปี โดยจะเป็นการลดรางวัลสำหรับการขุดบล็อคใหม่ โดยเมื่อปี 2012 มีการลดรางวัลลงเหลือ 25 BTC ตามมาด้วยการลดลงเหลือ 12.5 BTC ตอนปี 2016 และเหลือ 6.25 BTC ในปี 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มความผันผวนของตลาด โดยนักลงทุนต่างติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด ทำให้ราคามีความผันผวนเกิดขึ้นและเป็นการเพิ่มกิจกรรมการซื้อขายให้สูงขึ้น
สำหรับนักขุดเหรียญ รางวัลที่ลดลงจะส่งผลต่อโอกาสในการทำกำไรจากการขุดบิทคอยน์ และส่งผลกระทบต่อวงการการขุดเหรียญ นักขุดที่ต้องใช้พลังงานในการขุดสูงกว่าและมีฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าอาจต้องพบกับความท้าทายที่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาด
จากการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตของเหรียญบิทคอยน์ และวัฏจักร Halving ของ BTC แนวโน้มราคาบิทคอยน์ของเราจึงคาดการณ์ไว้ว่าเหรียญอาจมีระดับต่ำสุดที่ $57,027 โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $65,997 และราคาอาจจะพุ่งไปที่ $90,000
แนวโน้มบิทคอยน์ระยะยาว – การคาดการณ์ราคาในปี 2025
ในขณะที่เขียนบทความ แนวโน้มราคาขาลงอย่างต่อเนื่องของบิทคอยน์ได้ทำให้หลายคนคาดเดาว่าบิทคอยน์อาจเป็นหนึ่งในCryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในตลาด เพราะบิทคอยน์ยังคงเป็นตัวเลือกที่ ‘น่าสนใจ’ มากที่สุด เนื่องจากมูลค่าตามราคาตลาดและความผันผวนค่อนข้างต่ำ
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์ในปีหน้าคือการเปิดตัว ETF Bitcoin ที่รอมานาน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกยกเลิกโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลว่าตลาดคริปโตนั้นยังไม่มีการควบคุมจากหน่วยงานใด
อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธ Spot ETF ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เป็นการขัดขวางบริษัททางการเงินจากการเสี่ยงดวงที่เหรียญจะได้รับการอนุมัติแต่อย่างใด
Grayscale Investments ยังคงพยายามและเกลี้ยกล่อมก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะอนุญาตให้มีการลงทุนประเภทนี้ ในขณะที่บริษัทอื่นๆ (เช่น ARK Invest ขอเคธี่ วู้ด) เพิ่งยื่นคำขอ โดยหาก ETF ได้รับอนุญาตให้เปิดตัว ก็จะส่งผลต่อราคาบิทคอยน์โดยตรง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่จะมี Bitcoin ETF แบบสปอต ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงการลงทุน BTC สำหรับนักลงทุนจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ การคาดคะเนแนวโน้มราคาบิทคอยน์ของเราในปี 2025 จึงมองว่า BTC จะมีมูลค่าถึง $100,000 ภายในสิ้นปีนั้น
แนวโน้มราคาบิทคอยน์ปี 2030
มาต่อกันที่แนวโน้มราคาบิทคอยน์ในระยะยาว ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า ราคาบิทคอยน์มีแนวโน้มโตขึ้นจากกรณีการใช้งานจริงและการเก็งกำไรร่วมกัน กระดานซื้อขายคริปโตที่ดีที่สุดทุกแห่งต่างก็มีบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายได้ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอื่นๆ (เช่น PayPal และ Cash App) ได้มีการลงทุนในบิทคอยน์ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากการลงทุนแบบ “ดั้งเดิม” ให้ผลตอบแทนต่ำอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจำนวนมากจึงมุ่งความสนใจไปที่ตลาดคริปโต เนื่องจากศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่เหนือตลาด หลักฐานของผลตอบแทนที่น่าทึ่งคือการเติบโต 302.8% ที่บิทคอยน์เคยทำไว้ในปี 2020 เพียงปีเดียว
โดยรวมแล้ว มีแนวโน้มว่าการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่จะยังคงพัฒนามากขึ้นในปีต่อๆ ไป ด้วยเหตุนี้ การทำนายราคาบิทคอยน์ในปี 2030 ของเราจึงคาดการณ์ว่าเหรียญจะไปถึงราคา $150,000
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เชื่อมั่นในบิทคอยน์มากที่สุดคาดการณ์ว่าราคา BTC จะสูงขึ้นมาก โดยมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่ามูลค่าเหรียญดังกล่าวอาจสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ในอีกสิบปีข้างหน้า
ตัวอย่างเช่น Cathie Wood จาก Ark Invest เชื่อว่า Bitcoin จะขึ้นไปแตะมูลค่าที่ 1 ล้าน USD และขึ้นไปแตะที่ราคา 1.5 ล้าน USD ในปี 2030
แนวโน้มราคาบิทคอยน์ปี 2040
กำลังมองหาแนวโน้มราคาบิทคอยน์ในระยะยาวอยู่หรือเปล่า? ราคาบิทคอยน์ในปี 2009 ถึง 2018 มีความผันผวนสูง เนื่องจากสภาพคล่องต่ำและการขาดความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเหรียญคริปโต หมายความว่าการซื้อขาย BTC ส่วนใหญ่ถูกจำกัดไว้เฉพาะคนกลุ่มเล็กๆ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้บิทคอยน์ก็ได้เข้าสู่กระแสหลักแล้วและกำลังจะยังคงอยู่ต่อไป โดยนักลงทุนต่างสงสัยว่าราคาของ BTC จะไปถึงจุดไหนในอีก 10-20 ปีข้างหน้า
นักลงทุนเหรียญคริปโตส่วนใหญ่ทำการศึกษาว่าจะลงทุนอะไรดีตอนนี้ ซึ่งจะโน้มเอียงไปทาง BTC เสียส่วนใหญ่ เนื่องจากเข้าถึงได้ง่ายที่สุดและมีระดับความน่าเชื่อถือสูงสุด นอกจากนี้ บิทคอยน์ยังคงเป็นเหรียญคริปโตที่มีการกระจายอำนาจมากที่สุดในตลาด เนื่องจากโปรเจกต์อื่นๆ หลายแห่งได้รวมอำนาจมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นี่เป็นข้อดีเนื่องจากหมายความว่า BTC จะไม่ได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบมากเท่ากับโปรเจกต์อื่นๆ ในความเป็นจริงแล้ว กฎระเบียบของตลาดคริปโตนั้นอาจส่งผลดีต่อบิทคอยน์ เนื่องจากหลายๆ โปรเจกต์อาจจะต้องเปลี่ยนแนวทางของตน หรือแม้กระทั่งลบกรณีการใช้งานบางอย่างออกไป หาก BTC สามารถหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ ก็อาจจะทำให้เหรียญนั้นน่าดึงดูดยิ่งขึ้น
เมื่อรวมปัจจัยเหล่านี้เข้ากับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของบิทคอยน์ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ก็อาจจะเห็นปลายทางความสำเร็จที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในระยะยาว แม้ว่า BTC อาจไม่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีก่อน แต่ราคาบิทคอยน์ในปัจจุบันจะได้รับประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัยจากการยอมรับที่มากขึ้นในปีต่อๆ ไป
ด้วยเหตุนี้ แนวโน้มราคาบิทคอยน์ปี 2040 ของเราจึงคาดการณ์ว่าเหรียญจะมีมูลค่าถึง 250,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 1,386% จากราคาวันนี้
บิทคอยน์เอาไว้ทำอะไร?
บิทคอยน์ได้รับการยกย่องจากหลายๆ คนว่าเป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน โดยเหรียญดังกล่าวยังคงเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนมืออาชีพ มาสำรวจเรื่องนี้เพิ่มถึงกรณีการใช้งานของ Bitcoin กันเลย:
วิธีการชำระเงิน
กรณีการใช้งานหลักของบิทคอยน์คือการเป็นวิธีการชำระเงิน เนื่องจากเครือข่ายของบิทคอยน์มีการกระจายอำนาจทั้งหมด จึงสามารถชำระเงินได้โดยแทบไม่ต้องระบุชื่อ ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะเพียงอย่างเดียวคือที่อยู่กระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมเท่านั้น
นอกจากนี้ บิทคอยน์ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ ในการโอนเงินระหว่างประเทศ และการโอนเงินนั้นใช้เวลาเร็วกว่ามาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานส่วนกลาง
ประเทศกำลังพัฒนาสองประเทศและธุรกิจหลายพันแห่งได้นำเหรียญนี้ไปใช้งาน ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเติบโตไปสู่การยอมรับอย่างกว้างขวาง
การเข้าถึงการธนาคาร
เพื่อเสริมประเด็นก่อนหน้า บิทคอยน์ยังสามารถนำมาใช้ในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายธนาคารได้ ตามรายงานต่างๆ มีผู้คนมากกว่าสองพันล้านคนทั่วโลกที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร แต่ในตอนนี้ คนส่วนใหญ่มีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ทำให้การชำระเงินด้วยเหรียญคริปโตนั้นทำได้จริง
ตามทฤษฎีแล้ว ใครที่ไม่มีบัญชีธนาคารยังสามารถส่งและรับ BTC จากเพื่อนและครอบครัวได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้ นอกจากนี้ ด้วยแนวทางนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ที่อยู่หรือการระบุตัวตน ทุกคนจึงสามารถเข้าถึงเหรียญได้ ดังนั้น การที่เหรียญ ‘ไม่จำเป็นต้องใช้ธนาคาร’ อาจกลายเป็นกรณีการใช้งานขั้นพื้นฐานเมื่อบิทคอยน์เติบโตขึ้นนั่นเอง
รางวัลตอบแทนจากการขุด
เนื่องจากฉันทามติแบบ ‘Proof-of-Work’ ของ Bitcoin จึงจำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ขั้นสูงในการตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย เพื่อเป็นการตอบแทนการจัดหาฮาร์ดแวร์นี้ ‘ผู้ขุด’ จะได้รับรางวัลเป็น BTC
โดยนักขุดบิทคอยน์จะได้รับรางวัล 6.25 BTC ทุกครั้งที่พวกเขาเพิ่มบล็อกในบล็อกเชนสำเร็จ ในขณะที่เขียน ราคานี้เท่ากับเกือบ $143,750 ซึ่งเน้นย้ำว่ากระบวนการขุดเหรียญสามารถให้ผลกำไรมากเพียงใดสำหรับคนที่มีอาร์ดแวร์ที่จำเป็นในการขุดเหรียญเพียงพอ
การเก็งกำไร
แนวคิดของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ยังค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นและพันธบัตร แต่อัตราการลงทุนนั้นก็เพิ่มขึ้นทุกปี
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บิทคอยน์จะสร้างผลตอบแทนเป็นตัวเลขสองหลักภายในวันเดียว ซึ่งหาได้ยากในตลาดทุน และนักลงทุนที่ซื้อหุ้นเองก็ยอมรับว่า BTC นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูงในช่วงเวลาที่ตลาดเกิดความผันผวน เช่น ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19
ประโยชน์ในอนาคตของบิทคอยน์จะส่งผลต่อราคาได้อย่างไร?
แนวโน้มราคาบิทคอยน์ในระยะยาวจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ในอนาคตของเหรียญ แม้ว่าบิทคอยน์จะเป็นตัวเก็บมูลค่า แต่ก็มีศักยภาพในการพัฒนากรณีการใช้งานเพิ่มเติม เมื่อรวมเข้ากับฐานะ ‘เหรียญคริปโตสกุลแรก’ และความน่าเชื่อถือที่มากพอ กรณีการใช้งานเหล่านี้น่าจะผลักดันให้ราคาสูงขึ้น
หนึ่งในตลาดสำคัญที่จะช่วยให้มูลค่าบิทคอยน์เพิ่มขึ้นในอนาคตคือ ETF เหรียญคริปโต ซึ่งเป็นกองทุนรวมการลงทุนคริปโต (เช่น BTC) โดยช่วยให้นักลงทุนทำกำไรจากการเครื่อยไหวของราคาอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากมีหน่วยงานที่สามคอยจัดการกองทุน นักลงทุนจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการศึกษาข้อมูลสินทรัพย์หรือการปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนของตน
แม้ว่าราคาของบิทคอยน์ในขณะนี้จะค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อ ETF เหล่านี้เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ก็น่าจะกระตุ้นอุปสงค์ได้ โดยนักลงทุนต่างเฝ้ารอการเปิดตัวสปอต BTC ETF ซึ่งได้รับการปฏิเสธจากสำนักงาน ก.ล.ต. หลายครั้ง
อีกปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือ Bitcoin Lightning Network นี่คือโปรโตคอลการชำระเงินเลเยอร์ 2 ที่ให้ความเร็วการทำธุรกรรมที่เร็วขึ้นโดยการชำระธุรกรรม BTC นอกเครือข่าย
สิ่งใดที่เป็นตัวขับเคลื่อนราคาบิทคอยน์?
เช่นเดียวกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เช่น ตราสารทุนและ ETF ราคาบิทคอยน์ถูกขับเคลื่อนโดยอุปสงค์และอุปทาน แต่ลองมาดูว่าบิทคอยน์ จะขึ้นอีกไหม และอะไรบ้างที่มีผลต่อแรงอุปสงค์และอุปทานเหล่านี้
ความสนใจของโซเชียลมีเดีย
บิทคอยน์ยังเป็นคริปโตเคอร์เรนซี่ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ และมีสมาชิกมากกว่า 4.7 ล้านคนใน subreddit ทางการ ทำให้เมื่อใดก็ตามที่เกิด ‘กระแส’ ขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ก็มักจะนำไปสู่การลงทุนที่มากขึ้นจากนักเทรด ซึ่งส่งผลให้ราคาบิทคอยน์เพิ่มขึ้น
การยอมรับคริปโตที่เพิ่มมากขึ้น
ยิ่งมีการใช้งานบิทคอยน์มากเท่าใด ความต้องการก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้นตามกฎของอุปสงค์และอุปทาน เมื่ออุปสงค์เพิ่มขึ้น ราคาก็เพิ่มขึ้นด้วย (สมมติว่าอุปทานยังคงเท่าเดิมหรือลดลง)
ดังนั้น คอนเซ็ปต์อย่างตู้เอทีเอ็ม Bitcoin จะช่วยนำ BTC เข้ามาสู่กระแสหลัก แม้กระทั่งสำหรับคนที่ไม่เข้าใจในตัวเทคโนโลยีอย่างถ่องแท้ ตอนนี้ นักเทรดรายย่อยให้การยอมรับบิทคอยน์เป็นวิธีการชำระเงิน เพราะมักจะมีราคาถูกกว่าในการทำธุรกรรมและโปร่งใสมากกว่าสกุลเงินทั่วไป
การลงทุนของสถาบัน
กฎระเบียบใหม่ของตลาดคริปโตมักจะผลักดันให้เกิดการเคลื่อนไหวของกราฟราคา BTC ที่สำคัญในในช่วงหลายปีข้างหน้า โดยบทความล่าสุดจาก Forbes ตั้งข้อสังเกตว่าผู้นำ G20 กำลังหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบที่ว่านี้ โดยระบุว่า “มีความสำคัญ” และพวกเขาจะต้อง “ทำให้ผลลัพธ์ด้านกฎระเบียบแข็งแรงมากขึ้น”
มีความเชื่อที่เพิ่มขึ้นว่าการกำกับดูแลที่เข้มงวดยิ่งขึ้นอาจช่วยกระตุ้นราคาของ BTC เนื่องจากจะทำให้สกุลเงินดิจิทัลน่าสนใจสำหรับสถาบันทางการเงินขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากสถาบันเหล่านี้มีศักยภาพในการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ การกำกับดูแลที่ให้การคุ้มครองแก่สถาบันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
แนวโน้มราคาบิทคอยน์ – บทสรุป
บทความนี้ได้ทำการวิเคราะห์แนวโน้มราคาบิทคอยน์อย่างครอบคลุม โดยพิจารณาถึงยูทิลิตี้และโอกาสที่เหรียญจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนและปีถัดๆ ไป
สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงไว้ว่าราคาบิทคอยน์ได้รับอิทธิพลมาจากปัจจัยหลายข้อ โดยมีตั้งแต่แนวโน้มของตลาด กฎระเบียบจากรัฐบาล การพัฒนาทางเทคโนโลยี และอีกมากมาย
นักลงทุนควรตรวจสอบการคาดการณ์บิทคอยน์อย่างระมัดระวัง โดยตระหนักว่าราคาบิทคอยน์นั้นส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากพฤติกรรมของเทรดเดอร์ เว้นแต่จะมีเหตุการณ์สำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนให้มากขึ้นหรือเกิดความหวาดกลัว